บทความโดย Jeremy Hanlan

ข้อสอบเขียนของ IELTS แบ่งเป็น 2 ส่วน ใช้เวลาทำ 1 ชั่วโมง
ส่วนที่ 1 Information transferral ผู้สอบต้องอธิบายกราฟ แผนภูมิ ตาราง หรือกระบวนการ โดยการนำข้อมูลภาพ และข้อมูลสถิติที่ได้รับมาเขียนรายงานอีกครั้ง โดยต้องเขียน 150 คำขึ้นไป ภายในเวลาประมาณ 20 นาที
ส่วนที่ 2 Discursive essay ผู้สอบต้องอภิปราย ให้รายละเอียดความคิดเห็นตามหัวข้อที่ได้รับ รวมทั้งอาจต้องเขียนเหตุผลสนับสนุนข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง ทั้งแบบเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ในส่วนนี้มีเวลาทำ 40 นาที และต้องเขียนไม่น้อยกว่า 250 คำ
ควรทำข้อสอบส่วนไหนก่อน?
คำถามข้างต้นอาจดูแปลก หรือไม่น่าจะเอามาเป็นคำถามได้ เพราะคนส่วนใหญ่มักเริ่มทำแบบเรียงลำดับส่วนที่ 1 และตามด้วยส่วนที่ 2 แต่ถึงอย่างนั้น ผู้สอบจำนวนไม่น้อยพบว่า การทำแบบนี้ทำให้พวกเขาได้คะแนนน้อยกว่าที่คิดไว้
เพราะอะไร?
เพราะมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ และสัดส่วนคะแนน
ธรรมชาติของมนุษย์
คนเราชอบสร้างความประทับใจแรก (First impression) และยิ่งในข้อสอบที่เหมือนเป็นประตูสู่อนาคต ที่แขวนไว้กับผลคะแนนด้วยแล้ว เรายิ่งมีแนวโน้มที่ปล่อยเวลากับคำถามส่วนแรก เพราะต้องการแสดงความสามารถให้ได้มากที่สุด และกว่าที่จะรู้ตัวอีกทีก็ …แย่แล้ว! 30 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก! เชื่อเถอะว่า สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยจริงๆ ในสนามสอบ
เอายังไงดีล่ะที่นี้… เหลืออีก 30 นาที (จริงๆ ควรมี 40 นาที) สำหรับปั่นข้อเขียนส่วนที่สอง ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องใช้เวลามากเป็นพิเศษในการรวบรวมความคิด พัฒนาต่อยอด และวางแผน มาถึงตอนนี้ เราจะพบว่า การเขียน Essay ให้จบภายใน 30 นาที มันยากมากๆ และถ้าเขียนได้ไม่ถึง 250 คำล่ะก็ คะแนนหดหายแน่นอน !
สัดส่วนคะแนน
ส่วนที่ 1 คิดเป็น 40% จากคะแนนทั้งหมด ขณะที่ส่วนที่ 2 เท่ากับ 60%
หมายความว่า ถ้าเราทำส่วนที่ 1 ได้คะแนน 6.0 และทำส่วนที่ 2 ได้คะแนน 5.0 คิดเฉลี่ยผลคะแนนรวมเท่ากับ 5
แต่ในทางกลับกัน ถ้าส่วนที่ 1 ได้คะแนน 5.0 และส่วนที่ 2 ได้คะแนน 6.0 ผลคะแนนรวมจะออกมาเป็น 6
ในแง่ปฏิบัติ ผลคะแนนแบบนี้หมายความว่าอย่างไร
บอกไว้ก่อนว่า นี่อาจไม่ใช่คำแนะนำที่ดีนัก หากเราจะให้ความสำคัญกับการเขียนข้อสอบส่วนที่ 1 น้อยกว่า แต่ถ้าว่ากันตามความจริงแล้วก็คือ ในกรณีที่เราเขียนส่วนที่ 1 สั้นเพียง 20-30 คำ ก็อาจไม่กระทบกับผลคะแนนโดยรวมนัก
ข้อควรจำอีกหนึ่งประการ
เคล็ดลับสุดท้ายสำหรับวันนี้คือ เมื่อไรก็ตามที่ข้อสอบเขียนอยู่ตรงหน้า ให้ตรงดิ่งไปที่ส่วนที่ 2 ทันที อย่ามองหรือแม้แต่เหลือบตาดูส่วนที่ 1 เพราะมันจะทำให้เราไขว้เขวและคอยวนเวียนอยู่ในความคิด จนกระทั่งตัวเราเองไม่มีสมาธิลงมือทำข้อสอบส่วนที่ 2 ที่มีความคัญกว่า
ท้ายสุดจริงๆ
"เปิดข้อสอบ และกระโดดข้ามส่วนที่ 1 และลงมือทำส่วนที่ 2 ก่อนเสมอ!"
![]() | เกี่ยวกับผู้เขียน นับตั้งแต่ย้ายมาทำงานและใช้ชีวิตในเมืองไทย Jeremy Hanlan ได้คลุกคลีกับข้อสอบ IELTS ในทุกแง่มุม ทั้งในฐานะผู้คุมสอบ อาจารย์คอร์สเตรียมสอบ เจ้าหน้าที่ฝึกหัดครู และผู้พัฒนาหลักสูตรการสอน IELTS รวมทั้งยังเป็นนักเขียนอีกด้วย ปัจจุบัน Jeremy เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่ British Council สาขาสยามสแควร์ ไปพร้อมๆ กับการทำงานเขียน และพัฒนา 4 หลักสูตร IELTS อีกทั้งยังเป็นวิทยากรเวิร์กช็อปให้แก่คณาจารย์ เพื่อเพิ่มความสามารถในการสอนเกี่ยวกับข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 หมวดอีกด้วย |
No comments:
Post a Comment